เออร์วิ่ง เคยเป็นผู้เล่น เซลติคส์ อยู่ 2 ซีซั่นระหว่าง 2017-19 ทว่าก็ทิ้งกันไปอยู่กับอริร่วมดิวิชั่น บรู้กลิน เน็ตส์
นั่นคือจุดแตกหักกับแฟนบาสฯ เซลติคส์ ระดับหนึ่ง แต่ที่ทำให้ยิ่งทวีความเกลียดกันคือทุกครั้งเมื่อเผชิญหน้าต้องมีประเด็นเพิ่มเติมทั้งพฤติกรรมบนคอร์ตหรือบทสัมภาษณ์จิกกัด ซึ่งหนหนักหนาสุดคือเจตนากระทืบตราแฟรนไชส์ บอสตัน บนคอร์ต จนทำให้ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ
แน่นอนเกมที่ทีดี การ์เด้น วานนี้เหล่าสาวก เซลติคส์ จัดหนักโห่ใส่การ์ดวัย 32 ปีเต็มที่ แต่เพราะเกมมั่นขาดลอยตั้งแต่ควอเตอร์แรก แถมฟอร์มของ เออร์วิ่ง ก็โหลยโท่ย 12 แต้ม, 3 รีบาวน์ด, 2 แอสซิสต์และ 2 สตีล ฟิลด์โกลลงแค่ 6 จาก 19 ครั้ง มันเลยเปลืองแรงโห่อีกในครึ่งหลัง
ทว่าการ์ดออล-สตาร์ 8 สมัยคิดเป็นตุเป็นตะว่าแฟนบาสฯ เซลติคส์ ก็ไม่ได้สร้างบรรยากาศข่มขวัญมากมายอะไรอย่างที่ทำเป็นขู่
“มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมแพ้เกมยัง บอสตัน แต่ก็ไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่องเคยชิน ก็ยังมีคนที่รักผมเหลืออยู่บ้าง” การเปิดปากของการ์ดดีกรีแชมป์เอ็นบีเอ 1 สมัย
“ณ จุดนี้ผมคุ้นชินกับบรรยากาศในสนามแล้ว ตลอด 2-3 ปีหลังเมื่อมาเพลย์ออฟที่นี่, ในฤดูกาลปกติ มันก็เหมือนกันหมด ทีแรกคิดว่าจะโดนโห่ดังกว่านี้ด้วยซ้ำ”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“ดังนั้นในเกมสองซีซั่น แฟนบาสฯก็คงพยายามหาทางให้ผมฟอร์มหลุดอีกเช่นเดิม”
“มันไม่แค่เพราะผมโดนโห่ ผมยิงพลาด มันมีปัจจัยอื่นๆไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้นที่ทำให้แพ้เกม มันคือเรื่องทัศนคติและเราเตรียมตัวก่อนแข่งมาแบบไหน”
“ผมอาจไม่ได้มีเกมรุกที่เนี้ยบในเพลย์ออฟ 2024…ถึงตอนนี้เราต้องฝ่าฟันมันไปด้วยกัน เรื่องนั้นทำให้ผมตื่นเต้น”
นับจากย้ายออกจาก เซลติคส์ เมื่อห้าปีก่อน เออร์วิ่ง แพ้รวดในการเผชิญหน้าทีมเก่าทั้ง 11 ครั้ง